แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์จะมีการันตีรับประกันผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำ 10 ปี และรับประกันประสิทธิภาพการทำงาน 25 ปี แต่ก็มีโอกาสที่ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะเกิดความบกพร่องที่มาจากความเสื่อม ที่จะส่งผลให้มีความเสียหายต่อ การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ ทำให้ปริมาณกำลังการผลิต หรือกระแสไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้มีความไม่เสถียร ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นได้ แต่หลาย ๆ คนที่สนใจจะนำระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงแดดมาใช้งาน อาจจะยังไม่ทราบว่าความบกพร่องที่เกิดขึ้นนั้น มาจากสาเหตุใดได้บ้าง เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการวางแผนรับมือ ป้องกัน และหาทางแก้ไข เพื่อจะได้ดูแลการทำงานของแผงโซล่าเซลล์ ให้ยังคงประสิทธิภาพที่ดีไปตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย
ความบกพร่องที่เกิดจากความเสื่อมของ การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ รูปแบบนี้ มาจากการเกิดรอยร้าวขนาดเล็ก ที่อาจจะไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบพิเศษ จึงจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน โดยรอยร้าวนี้ มักจะเกิดขึ้นกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นเก่า แต่สำหรับรุ่นใหม่ ๆ ที่ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตแบบ Half Cell และ Mult busbar ซึ่งช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ลดลงได้มาก โดยปกติรอยร้าวขนาดเล็ก จะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพมากนัก แต่หากสะสมเป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้กำลังไฟฟ้าที่ผลิตได้ลดลง
แสงและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไป จะทำให้เกิดความเสื่อมของ การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ ในรูปแบบ LeTID ได้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยเทคโนโลยี PERC ในการผลิตแผงโซล่าเซลล์รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งช่วยส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพ แต่อาจจะพบเห็นความบกพร่องนี้ได้ในเซลล์ PERC ชนิด P ในแผงรุ่นเก่า แต่ในปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายที่ได้มีการพัฒนากระบวนการระหว่างการผลิต และเป็นการขจัดการสูญเสีย LeTID ซึ่งบริษัทผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะในจีน อเมริกา หรือยุโรป ซึ่งได้มีการรับรองมาตรฐาน LETID จาก TÜV Rheinland
นอกจากความเสื่อมที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับผิวภายนอก ซึ่งจะไปกระทบกับ การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ แล้ว ยังมีความบกพร่องที่มาจากแผ่นรองด้านหลังแผง หรือ back sheet ซึ่งอาจจะมีรังสี UV หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้แผ่นพลาสติกด้านหลังไม่ว่าจะเป็นสีขาว หรือสีดำ ได้รับความเสียหาย โดยอาจจะมาจากการเลือกใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งเป็นเหตุให้แผ่นรองด้านหลังเกิดการแตกหัก หรือชำรุดขึ้นได้ โดยความเสื่อมสภาพนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่น ความชื้นเข้าสู่แผงโซล่าเซลล์ หรือเกิดการกัดกร่อน เกิดขึ้น
การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ ยังจะได้รับผลกระทบจากอีกหนึ่งปัจจัย ก็คือ ความเสื่อมที่เกิดจากการเหนี่ยวนำด้วยแรงดันไฟฟ้า หรือ PID ซึ่งจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เมื่อผ่านการใช้งานระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วตั้ง 4 – 10 ปี โดยปัญหาเกิดจากแรงดันไฟฟ้ารั่วจากเซลล์ไปยังเฟรมหรือกรอบของแผงโซล่าเซลล์ ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้มีปริมาณลดลง โดยปกติอาจจะไม่สามารถสังเกตเห็นได้ในตอนแรก แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานเข้า ก็จะแสดงผลกระทบอย่างชัดเจน โดยอาจจะมีความผิดปกติพอจะตรวจสอบได้ก็คือ มีกระแสไฟฟ้าต่ำกว่าที่ผ่านมา
อีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้ การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ เกิดความผิดปกติตั้งแต่แรกเริ่มติดตั้งระบบและเปิดใช้งาน โดยเมื่อแผงเซลล์แสงอาทิตย์ถูกแสงแดดครั้งแรก จะทำให้เกิดสถาวะ power stabilization จากการมีออกซิเจนในแผงซิลิกอน ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียกำลังวัตต์ไปได้ ตั้งแต่ 2 – 3 % ในช่วงระยะเวลาเพียง 200 – 300 ชั่วโมงแรก แต่ความเสื่อมนี้ มักจะได้รับการพัฒนาและวางแผนในการปกป้องโดยผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์ชั้นนำ โดยการออกแบบให้แผงโซล่าเซลล์มีกำลังการผลิตที่สูงกว่าที่ระบุไว้ในเอกสาร
ด้วยเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้อธิบายไปนี้ คงทำให้ทุกท่านได้เข้าใจมากขึ้นว่า การทำงานของแผงโซล่าเซลล์ มีความบกพร่องหรือผิดปกติจากความเสื่อมได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจะได้หาแนวทางในการรับมือ ป้องกันและดูแลได้อย่างถูกต้อง โดยสำหรับท่านใดที่สนใจในการนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งาน สามารถขอคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง บริษัท โซลาร์ พาวเวอร์ ครีเอชั่น บริษัทชั้นนำด้านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี มีทีมวิศวกรและช่างที่มีความเชี่ยวชาญดูแลตลอดระยะเวลาตั้งแต่สำรวจ ติดตั้ง ขออนุญาต ไปจนถึงการบำรุงรักษา โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081 – 2589068 หรือแอดไลน์ @Solarpowercreation และเข้าไปอ่านเนื้อหาความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ได้ที่ www.powercreation.co.th และ Facebook : Solar Power Creation